โลกหลังจากการ Disruption ของเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติ พลังแห่งดิจิทัล และโควิด 19 นั้นไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป ยุคสมัยแห่ง New Normal เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงกันอย่างไม่ขาดสาย แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไปอะไรที่ใหม่ก็กลายเป็นสิ่งเดิม เพื่อการเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้ประกอการและนักอุตสาหกรรมทั้งหลายต้องมองไปถึง Next Normal หรือความธรรมดาอะไรที่จะเกิดขึ้นเป็นบรรทัดฐานต่อไปในการทำงาน โดยเฉพาะสิ่งที่ต่อยอดออกมาจากเทคโนโลยีอย่างการผลิตอัตโนมัติ
Robotic Process Automation (RPA) เป็นการใช้งานซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการข้อมูลแทนมนุษย์ ซึ่งกลายเป็นอีกเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยผลักดันการทำงานในยุคดิจิทัลสำหรับทางฝั่ง IT แต่ในวันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องการใช้งานสำหรับกิจการโรงงานอุตสาหกรรมกันครับ
กล่าวให้สั้น เมืองอัจฉริยะ หรือ smart city ก็คือเมืองที่ถูกบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีอันชาญฉลาด ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบดูแลพื้นที่ได้แบบ real-time ส่งผลให้เกิดการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าและลดค่าใช้จ่ายด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยี เป็นข้อได้เปรียบสองประการสำคัญของความเป็นเมืองอัจฉริยะ
Big Data, machine learning and Internet of Things are incorporated in numerous segments of smart cities which make them more friendly and liveable towards people living in it. ( Source: Deposit Photos )
กล่าวให้ง่าย เมืองสมาร์ทคือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำให้สิ่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างชาญฉลาดด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้งหมดของแนวคิดยอดนิยม เช่น Big Data, machine learning และ Internet of Things (IOT) ถูกบรรจุไว้ในหลายๆ ส่วนของเมือง สร้างความเป็นมิตร น่าอยู่และสะดวกสบายมากขึ้นกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมือง
มีหลายประเทศที่กำลังสำรวจ-ศึกษาแนวความคิดนี้ และได้พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ดูไบได้ลงทุนกว่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเมืองอัจฉริยะ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปตามความคิดริเริ่ม ‘‘Smart Dubai’ ที่ประกาศในปี 2013 โดย H. H. Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum รองประธานและนายกรัฐมนตรีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และผู้ปกครองนครดูไบ เป็นไปเพื่อเปลี่ยนดูไบไปสู่ ‘smart city’