ความหนาแน่นของหุ่นยนต์ (Robot density) เป็นการวัดที่ติดตามจำนวนของหุ่นยนต์ต่อคนงาน 10,000 คนในอุตสาหกรรม จากข้อมูลของสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (IFR) ล่าสุดจากรายงานเมื่อปี 2019 ระบุว่า ความหนาแน่นของหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มขึ้นทั่วโลกในปี 2018 แสดงให้เห็นว่าประเทศต่างๆ หันมาใช้ระบบอัตโนมัติในการผลิตมากขึ้น
มีหุ่นยนต์ถูกติดตั้งเพิ่มขึ้นทั่วโลกถึง 422,000 ยูนิต เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนหน้า และเป็นปีแรกที่ยอดติดตั้งหุ่นยนต์พุ่งสูงทะลุสี่แสนยูนิต โดยจีนยังคงครองตำแหน่ง end user อันดับหนึ่ง ตามมาด้วยญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ต่อด้วยเกาหลีใต้และเยอรมนี
IFR รายงานว่า ความหนาแน่นของหุ่นยนต์ทั่วโลกโดยเฉลี่ยเมื่อปี 2018 มีหุ่นยนต์ถูกติดตั้ง 99 ยูนิตต่อพนักงาน 10,000 คน เพิ่มขึ้นจากความหนาแน่นของหุ่นยนต์ 74 ยูนิตในปี 2016
เมื่อแยกความหนาแน่นตามภูมิภาค ยุโรปอยู่ที่ 114 ยูนิตต่อแรงงาน 10,000 คน อเมริกาเหนือ 99 ยูนิตและเอเชีย 91 ยูนิตตามลำดับ
IFR ยังรายงาน 10 ประเทศในโลกที่ใช้งานระบบอัตโนมัติมากที่สุดในการผลิต อันดับ 1 ได้แก่ เกาหลีใต้ มีค่าความหนาแน่นของหุ่นยนต์อยู่ที่ 831 ยูนิตต่อแรงงาน 10,000 คน 2.สิงคโปร์ 774 ยูนิต 3.เยอรมนี 338 ยูนิต 4.ญี่ปุ่น 327 ยูนิต 5.สวีเดน 247 ยูนิต 6.เดนมาร์ก 240 ยูนิต 7.ไต้หวัน 221 8.สหรัฐอเมริกา 217 ยูนิต 9.อิตาลี 200 ยูนิต และ 10.เบลเยียม 188 ยูนิต
เกาหลีใต้ครองอันดับหนึ่งจากแรงสนับสนุนของรัฐบาลล้วนๆ ที่ออกมาประกาศตั้งแต่ปี 2016 ว่าจะทุ่มเม็ดเงิน 450 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราวห้าหมื่นล้านวอน) ให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ โดยใช้เงินก้อนโตไปกับศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับองค์กร ส่วนสิงคโปร์ราว 90% ของหุ่นยนต์ถูกติดตั้งในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เยอรมนี ครองตำหน่งประเทศที่ใช้ระบบอัตโนมัติมากที่สุดในยุโรป ที่น่าสนใจคือเดนมาร์กมีประชากรเพียง 6 ล้านคน มียอดใช้หุ่นยนต์เพิ่มขึ้นทุกปีและยังครองอันดับใน Top 10 อย่างเหนียวแน่น
จีนมีการติดตั้งหุ่นยนต์โดยเฉลี่ย 140 ยูนิตต่อแรงงาน 10,000 คนแซงค่าเฉลี่ยจากทั่วโลกไปเรียบร้อนแล้วในปี 2018 ความหนาแน่นของหุ่นยนต์อยู่ในอันดับที่ 20 เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ
ส่วนญี่ปุ่นยังครองตำแหน่งผู้ผลิตหุ่นยนต์อุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ด้วยสถิติการผลิตถึง 153,000 หน่วยในปี 2016 ผู้ผลิตของญี่ปุ่นได้ส่งมอบหุ่นยนต์ในสัดส่วน 52% ของอุปทานหุ่นยนต์ทั่วโลก
ส่วนการใช้งานรถขนย้ายอัตโนมัติ หรือ AGVs ในโรงงาน คลังสินค้า ศูนยโลจิสติกส์ และโรงพยาบาลทั่วโลกอยู่ที่ 110,000 ยูนิตเพิ่มขึ้นกว่า 60% จากเมื่อปี 2017 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่น่าสนใจและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
จากแนวโน้มเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ระบบอัตโนมัติกำลังเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์มากขึ้นจากความคุ้มค่าในระยะยาว ส่วนมนุษย์ก็ต้องเพิ่มทักษะในการทำงานมากขึ้น งานซ้ำซากที่ใช้แรงงานหนัก ๆ ก็จะเป็นหน้าที่ของหุ่นยนต์มากขึ้น ส่วนงานที่ใข้ทักษะเกี่ยวกับการตัดสินใจ การควบคุม ไปจนถึงงานเชิงเทคนิคต่างๆ ก็จะยังไม่มีสิ่งใดมาแทนที่มนุษย์ได้อย่างแน่นอน
ขอเชิญชมงาน Automation Expo 2020 ปีนี้ที่สวนนงนุช พัทยาระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติล่าสุดให้กับโรงงานของคุณ รับรองไม่มีตกเทรนด์!