Categories
Article

Global Lighthouse Network โมเดลสำหรับโรงงาน 4.0 จาก WEFxMcKinsey

อุตสาหกรรม 4.0 กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการแข่งขันในการผลิตยุคใหม่ แต่ไม่ใช่ผู้ประกอบการทุกคนที่จะรับรู้และเข้าใจได้ถึงความสำคัญและการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น Global Lighthouse Network จึงเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นโมเดลตัวอย่างความสำเร็จและความเปลี่ยนแปลงเสมือนประภาคารที่ฉายไฟให้นักเดินเรือสามารถล่องทะเลได้อย่างปลอดภัย

Categories
Article

OEE คืออะไร ทำไมถึงต้องรู้จัก

Overall Equipment Effectiveness (OEE): ประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร คือวิธีการคำนวณความสามารถในการทำงานทั้งหมดของเครื่องจักรภายในโรงงาน โดยอ้างอิงจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและสรุปออกมาเป็นตัวเลข
 

Categories
Article Automation News

Show Preview: คุณจะพบอะไรในงาน AUTOMATION EXPO 2020 ที่สวนนงนุช พัทยา

งานแสดงเทคโนโลยีและโซลูชันระบบอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดใน EEC ครั้งที่ 3

กับ Virtual Exhibition ด้าน B2B ครั้งแรกของไทย!

Categories
Article Automation News

กลยุทธ์การใช้งานระบบอัตโนมัติหุ่นยนต์ให้เวิร์คอย่างเห็นผล

เทคโนโลยีที่มีราคาถูกลง มีความสามารถและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น กำลังเป็นตัวเร่งการเติบโตของโรงงานที่ผลิตด้วยระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ความท้าทายที่สำคัญสำหรับบริษัทต่าง ๆ ก็คือการตัดสินใจว่าจะเลือกใช้วิธีใด ด้วยข้อมูลชุดใด

Categories
Article Automation News

Robot density | 10 อันดับความหนาแน่นของหุ่นยนต์ทั่วโลก

ความหนาแน่นของหุ่นยนต์ (Robot density) เป็นการวัดที่ติดตามจำนวนของหุ่นยนต์ต่อคนงาน 10,000 คนในอุตสาหกรรม จากข้อมูลของสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (IFR) ล่าสุดจากรายงานเมื่อปี 2019 ระบุว่า ความหนาแน่นของหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มขึ้นทั่วโลกในปี 2018 แสดงให้เห็นว่าประเทศต่างๆ  หันมาใช้ระบบอัตโนมัติในการผลิตมากขึ้น

Categories
Article

AR กับการเพิ่ม Productivity ของแรงงานให้กับการผลิต

เทคโนโลยีเสมือนอย่าง Augmented Reality หรือ AR สามารถสร้างความแตกต่างให้กับการทำงานของแรงงานในอุตสาหกรรมได้อย่างทั่วถึง สามารถส่งต่อประสบการณ์การทำงานได้อย่างรวดเร็วและลดปัญหาในการทำงานได้หลายประการ แต่จุดเด่นสำหรับแรงงานจะมีอะไรบ้างเดี๋ยวเราไปดูกันครับ

Categories
Article

อุตสาหกรรมผลิตหุ่นยนต์ก้าวเข้าสู่ตลาดหุ่นยนต์เคลื่อนที่

ตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนจากกลุ่มของเทคโนโลยีที่มีความต้องการความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น โดยแต่เดิมตลาดหุ่นยนต์นั้นเป็นตลาดของหุ่นยนต์ที่มีตำแหน่งประจำตายตัวแต่ในปัจจุบันตลาดของหุ่นยนต์เคลื่อนที่ได้นั้นมีความต้องการอย่างมาก

Digitization_Automation

การขยายตัวในการใช้งานสำหรับปี 2019 ที่ผ่านมาทำให้หลายองค์กรวางแผนขยายสัดส่วนการใช้งานสำหรับธุรกิจในระะยเวลา 5 ปีนับจากนี้ ซึ่งกลุ่มร้านค้าปลีกนับว่ามีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดความต้องการเหล่านี้ คาดการณ์ว่าในปี 2025 นั้นจะมีหุ่นยนต์เคลื่อนที่มากกว่า 150,000 ตัวถูกติดตั้งใช้งาน

“คุณค่าสำหรับหุ่นยนต์เคลื่อนที่ในกลุ่มงาน Intralogistics นั้นเป็นอะไรที่เราคุ้นเคยและคาดเดากันได้อยู่แล้ว ด้วยค่าจ้างแรงงานที่สูงจนเกินไปและผลลัพธ์ที่ได้มานั้นเรียกว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่ต้องการ การติดตั้งหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์เพื่อจัดการกับปัจจับผลักดันต้นทุน ความปลอดภัย รวมถึงลดความสูญเสีย อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์เคลื่อนที่ในตลาดร้านค้าปลีกสามารถเพิ่มมูลค่าในรูปแบบอื่นได้อีกเช่นกัน” Rian Whiiton, Senior Robotics Analyst แห่ง ABI Research

ปัจจุบันมีการใช้งานหุ่นยนต์ในการทำความสะอาดพื้น ระบบเก็บข้อมูลคลังสินค้าด้วย การใช้ระบบอัตโนมัติในการหยิบจับชิ้นส่วน Ecosystem ที่เกี่ยวข้องจึงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง เช่น Amazon Mobile Robotics ที่มีการใช้ระบบนำทางด้วยภาพ ผู้พัฒนาจาก Humatics ที่ให้ความสำคัญกับการนำทางเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ในอาคารกับพื้นที่กลางแจ้งด้วยตัวส่งสัญญาณที่มีระยะกว้างเป็นพิเศษทำให้ลงรายละเอียดได้ถึงระดับมิลลิเมตร

ยกตัวอย่าง Walmart ร้านค้าปลีกชื่อดังมีการติดตั้งหุ่นยนต์กว่า 350 ตัวในระบบบริหารจัดการคลังสินค้าในปี 2019 หรือเฉลี่ยแล้ว 1 สาขาจะต้องมีหุน่ยนต์ 1 ตัว ซึ่งหุนยนต์ในกลุ่มนี้มีตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วแต่มีความท้าทายอยู่ที่การติดตั้งและประยุกต์ใช้งาน  ยกตัวอย่างบริษัท Bossa Nova ได้คาดการณ์ไว้ว่าการใช้หุ่นเคลื่อนที่ในการส่งขอจะเพิ่มขึ้นเป็ฯเท่าตัวทุกปีในอีกครึ่งทศวรรษ จะมีการเก็บข้อมูลราว 10 Terabytes ต่อวันซึ่งจะเป็นภาระให้กับผู้บริการ Cloud อย่างมาก รวมถึงการเติบโตทางเทคโนโลยีของเหล่าผู้พัฒนาชิปทั้งหลายอย่าง Nvidia, Qualcomm และ Intel ที่ต้องการตัวประมวลผลที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับบริษัทค้าปลีกนั้นไม่สามารถบูรณาการระบบในสัดส่วนขนาดใหญ่ได้เนื่องจากมันยังคงมีความแตกต่างกับการติดตั้งระบบในที่พักอาศัยจึงยังต้องการ SI (System Integrator) ในการทำงานตรงนี้

ลูกค้าต้องการความแม่นยำและความรวดเร็วในการขนส่งที่ต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ค้าส่งนั้นสามารถตอบสนองต่อความเร่งรีบรวดเร็วของธุรกิจที่เป็นอยู่ซึ่งรายรอบไปด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

“ผู้ค้าส่งกำลังหาทางแข่งขันกับ E-Commerce เหมือนกับการเผชิญหน้าบนทางลาดชันโดยปราศจากช่องทางที่หลากหลายในการสนับสนุนการทำงาน การขนส่ง และส่งมอบความพึงพอใจให้กับลูกค้า การเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้พัฒนาหุ่นยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญในข้อมูลและการบริหารจัดการคลังสินค้าสามารถขยายความสามารถของผู้ค้าปลีกได้” Rian Whitton

ที่มา:
Abiresearch.com

gerd-diet Dietketo
code-red-diet Fast
mediterranean-diet-meal-plan Wikipedia
whole-foods-plant-based-diet Ketopill
fasting-diet Top
intermittent-fasting-diet Shop
noom-diet Ketogenic
whole-food-plant-based-diet Amazon
cico-diet Pill
pancreatitis-diet Diet

Categories
Article

Wi-Fi 6 และ 5G สามารถเปลี่ยนแปลงระบบอัตโนมัติโรงงานได้อย่างไร?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีสำหรับการเชื่อมต่อทั้งหลายนั้นกลายเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับระบบอัตโนมัติในยุคใหม่ที่กำลังมาถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น 5G, Wi-Fi 6, LoRaWan และอื่น ๆ ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานในการทำงานของงานอุตสาหกรรมในปัจจุบัน แต่รู้หรือไม่ว่าเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายเหล่านี้สร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

Categories
Article Automation News

ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ – RPA ตัวเร่งธุรกิจ E-Logistics เปลี่ยนต้นทุนเป็นกำไร

Robotic Process Automation (RPA) เป็นซอฟต์แวร์ที่เติบโตมากที่สุด เมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์ระดับองค์กร RPA คือ หุ่นยนต์ที่อยู่ในรูปแบบของซอฟต์แวร์เหมาะสำหรับงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ มีปริมาณมาก ๆ ต้องการความแม่นยำและรวดเร็ว

ขณะที่รัฐบาลไทยกำลังเดินหน้าผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วนหลายบริษัทในหลากอุตสาหกรรมเองก็กำลังเร่งปรับตัวขนานใหญ่เพื่อรับมือกับความท้าทายทางด้านเทคโนโลยีที่ถาโถมมาอย่างไม่หยุดยั้ง บางแห่งเริ่มนำระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติและเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วย transform ธุรกิจให้อยู่รอด ลดต้นทุนในกระบวนการต่าง ๆ ภายในองค์กร ตลอดจนนำมาเสริมการให้บริการ อาทิ Big data, Internet of Things (IoT), Cloud, Artificial intelligence (AI), Blockchain ฯลฯ

โดยเฉพาะธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์นั้นมีภาพรวมการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากการขยายตัวของตลาด e-Commerce ที่มีผู้เล่นรายใหม่ ตบเท้าเข้ามายังตลาด ETDA เคยคาดการณ์มูลค่า e-Commerce ของกลุ่มอุตสาหกรรมการขนส่งอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท โดยอยู่ในลำดับที่ 5 จาก 8 กลุ่มอุตสาหกรรมทั้งหมดสำหรับปี 2561 แสดงให้เห็นถึงโอกาสการเติบโต และศักยภาพในการขยายตัวของตลาดที่ยังเปิดกว้างแก่ผู้ประกอบการทางด้านนี้หากมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้เปลี่ยนผ่านไปสู่ E-Logistic

RPA_E-Logistics

ข้อมูลจาก PWC เผยว่า Software เป็นหนึ่งเทรนด์ที่สำคัญของการทำธุรกิจด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ (Transport & Logistics) เพราะช่วยเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานภายใน ช่วยลดต้นทุน และสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับธุรกิจในระยะยาว โดยใช้พื้นฐานมาจากเทคโนโลยีกลุ่ม AI, IoT, Big Data และ Blockchain ซึ่งประกอบด้วย 5 โซลูชั่นสำคัญที่ช่วยก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่

  • โซลูชั่นระบบขนส่งอัจฉริยะ (Intelligent Transport System)
  • โซลูชั่นการคาดการณ์เพื่องานซ่อมบำรุงและตรวจสอบสภาพแวดล้อมด้วยโดรน (Predictive Maintenance and Drone Supervision)
  • โซลูชั่นระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ (Robotic Process Automation หรือ RPA)
  • โซลูชั่นบล็อกเชนและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง (Blockchain DLT Solutions)
  • โซลูชั่นปัญญาประดิษฐ์ (AI Solutions)

ซึ่งเทคโนโลยีขั้นแรกที่หลายองค์กรนำมาใช้เป็นกลยุทธ์แรก ๆ เพื่อเปลี่ยนผ่านการทำงานภายในสู่การเป็นผู้ให้บริการ E-Logistic สมัยใหม่ ก็คือ RPA (Robotic Processing Automation) เพราะเป็นการเปลี่ยน ต้นทุน ผสานรวมระบบการทำงาน และพัฒนา workforce ไปสู่การสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้กับองค์กรในระยะยาวได้ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่น RPA มีแนวทางการปรับใช้ RPA ให้แก่องค์กรด้านโลจิสติกส์มานำเสนอ ดังนี้

แนวทางการปรับใช้ RPA เพื่อดำเนินธุรกิจการขนส่งที่น่าสนใจ

กระบวนการเรียกเก็บเงิน หนึ่งในความท้าทายสำคัญของการดำเนินธุรกิจคือการได้รับเงินโดยเร็วที่สุดหลังจากงานสำเร็จลุล่วงแล้ว โดยปกติขั้นตอนในการเรียกเก็บเงินมีความซับซ้อนและใช้หลายระบบในการทำงาน ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้า ซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ RPA จะช่วยเชื่อมต่อระบบการทำงานทั้งหมดเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ และส่งเอกสารใบแจ้งหนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียกเก็บเงินให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ใช้ปรับกระบวนการสั่งซื้อสินค้า และการชำระเงินให้เป็นแบบอัตโนมัติ หลายบริษัทอาจยังใช้กระบวนการเดิม ๆ ในขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า เช่น ป้อนข้อมูลของลูกค้าแบบ manual ด้วยประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ RPA จะช่วยเชื่อมโยงฐานข้อมูลของลูกค้า ประมวลผลการเบิกจ่ายเงิน ส่งอีเมลยืนยัน และยื่นคำสั่งซื้อแบบอัตโนมัติ

เชื่อมต่อซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ RPA เข้ากับพอร์ทัลลูกค้า เพิ่มความเร็วการออกใบแจ้งหนี้ ไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลซ้ำ ๆ บนระบบ หรือแนบข้อมูลเข้าไปกับใบแจ้งหนี้ด้วยตนเองอีกต่อไป สามารถใช้ซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ RPA ช่วยดึงข้อมูลพร้อมทั้งแนบไฟล์ POD ที่สแกนเรียบร้อยแล้วไปพร้อมกับใบแจ้งหนี้ได้โดยอัตโนมัติ และสามารถอัพเดตข้อมูลดังกล่าวบนพอร์ทัลลูกค้าภายในไม่กี่วินาทีแทนที่แบบเดิมที่จะต้องเสียเวลาเป็นวัน ๆ

เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารของลูกค้าด้วยคำสั่งซื้อแบบอัตโนมัติ และ ช่วยติดตามสินค้าในคลัง ใช้ซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ RPA เพื่อช่วยตรวจสอบข้อมูลการจัดส่งสินค้า/เว็ปไซต์ เพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลนั้นถูกต้อง และตรงกัน โดยเชื่อมโยงกับข้อมูลคำสั่งซื้อในระบบการจัดการคลังสินค้า ช่วยให้สามารถติดตามและตอบสนองกับลูกค้าได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น

RPA System
ตัวอย่าง ภาพระบบ RPA ที่เหมาะแก่ธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์

ข้อมูลจาก Gartner ชี้ว่า Robotic Process Automation (RPA) เป็นซอฟต์แวร์ที่เติบโตมากที่สุดถึง 63% เมื่อปี 2561 และคาดการณ์ปีนี้จะมีมูลค่าราว 1.3 พันล้านดอลลาร์ (ราว 4 หมื่นล้านบาท) เมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์ระดับองค์กร RPA คือ หุ่นยนต์ที่อยู่ในรูปแบบของซอฟต์แวร์เหมาะสำหรับงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ มีปริมาณมาก ๆ ต้องการความแม่นยำและรวดเร็ว เช่น งานทางด้านป้อนข้อมูลเข้าระบบ งานบัญชี เป็นต้น เพราะ RPA มีความสามารถในการจัดการข้อมูลจำนวนมากจึงเป็นทางเลือกแรกที่ตอบโจทย์ธุรกิจประเภทนี้เนื่องจากจะเข้าไปช่วยจัดทำและเปลี่ยนแปลงข้อมูลขั้นพื้นฐาน อาทิ เอกสารพวกใบวางบิล ใบกำกับสินค้า รวมไปถึงกระบวนการรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า และการตรวจสอบการบันทึก พวกใบสั่งซื้อสินค้า หรือเอกสารทางด้านกฎหมาย เป็นต้น

ปัจจุบันมีธุรกิจคนไทยที่นำ RPA มาใช้อย่างเต็มรูปแบบในเชิงปฏิบัติการแล้ว คือ บริษัท ซีทีไอ โลจิสติกส์ ที่นำระบบนี้มาใช้เปลี่ยนโฉมการทำงานของคน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานควบคู่ไปกับการลดต้นทุนด้านการดำเนินงานทางด้านเอกสารภายใน ช่วยให้กระบวนการดำเนินงานภายในองค์กรราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ RPA ยังช่วยให้พนักงานมีเวลาเพิ่มขึ้น สามารถไปทำงานในเชิงคิดวิเคราะห์หรืองานที่เพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรได้ ซึ่งองค์กรจะได้รับประโยชน์ทั้งในด้านคุณภาพของงานจากบุคลากรที่มีทักษะ และปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นจาก RPA ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีศักยภาพได้อีกด้วย

RPA_Logistics

นอกจากการลงทุนนำโซลูชั่น RPA มาใช้เพื่อ transform ธุรกิจแล้ว ผู้บริหารควรมีการวิเคราะห์ ออกแบบและวางแผนล่วงหน้า หรือปรึกษาบริษัทผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยให้การนำซอฟต์แวร์ดังกล่าวมาปรับใช้กับเนื้องานของธุรกิจได้อย่างเหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพงานที่มีอยู่ในขณะเดียวกันก็แบ่งเบาภาระงานที่เคยต้องใช้แรงงานมนุษย์ในการปฏิบัติการเป็นหลัก สอดคล้องกับข้อสรุปของเหล่า CEOs ในแวดวงโลจิสติกส์ที่ตอกย้ำถึงทิศทางของการดำเนินธุรกิจวันนี้ว่า ควรให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ (Operational Efficiencies) เป็นลำดับแรกสูงถึง 71%

ดังนั้นบริษัทที่ควรนำระบบอัตโนมัติ RPA เข้ามาประยุกต์ใช้กลุ่มแรก ๆ คือ บริษัทที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาของระบบงานหลังบ้าน มีต้นทุนจากการจ้างแรงงานจากภายนอก และต้องการเปลี่ยนต้นทุนให้ย้อนกลับมาเป็นกำไรนั่นเอง

 

บทความโดย: บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

Categories
Article

UMATI คืออะไร? รู้จักเทคโนโลยีทีเด็ดสำหรับ Machine Tools ยุค 4.0

หนึ่งในเทคโนโลยีเด็ดประจำปี 2019 สำหรับ Machine Tools คงหนีไม่พ้น UMATI หรือ Universal Machine Tool Interface มาตรฐานใหม่ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตเครื่องจักรอุตสาหกรรมทั่วโลก!

UMATI มาตรฐานใหม่สำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรม

ตั้งแต่การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีดิจิทัลและความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม 4.0 ผู้ผลิตชั้นนำต่าง ๆ พยายามผลักดันมาตรฐานระบบของตัวเองเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาด ทำให้ปัจจุบันมีมาตรฐานต่าง ๆ มากมายแตกต่างกันไป และหลายครั้งทำให้ยากต่อการใช้งานเครื่องจักรหรือเครื่องมือในการผลิตที่ต้องทำงานกันข้ามค่าย

ก่อนที่จะแยกทางกันไปไกลกว่านี้สมาคมผู้ผลิต Machine Tool แห่งเยอรมนี Verein Deutscher Werkzeugmaschinenfabriken e.V. (VDW) และพันธมิตรอีก 17 บริษัทจึงได้ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะในการเชื่อมต่อเข้ากับ IT Ecosystem ที่เป็นมาตรฐานสากลซึ่งจะกลายเป็นมาตรฐานกลางสำหรับการใช้งาน Machine Tool

หน้าที่หลักของ UMATI (Universal Machine Tool Interfacte) คือ การเป็นตัวกลางหรือเป็นภาษาสากลในการสื่อสารของ Machine Tool ต่าง ๆ ภายใต้การทำงานของแนวคิด Industry 4.0 หรือ IIoT (Industrial Internet of Things)

UMATI นั้นได้รับการพัฒนาที่มีพื้นฐานจาก OPC UA หรือ ซึ่งเป็นมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับออโตเมชันในงานอุตสาหกรรมและกิจการอื่น ๆ ที่มีพื้นฐานซึ่งให้ความสำคัญกับข้อมูลดังนี้

  • Functional Equivalence สามารถรองรับการทำงานได้เทียบเท่า COM OPC Classic
  • Platform Independence รองรับแพลตฟอร์มได้อย่างอิสระไม่ว่าจะเป็น Embedded Micro-controller ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานจาก Cloud ไร้ข้อจำกัดสำหรับฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการณ์
  • Secure มีการเข้ารหัส การพิสูจน์ตัวตน  และการตรวจสอบ
  • Extensible สามารถเพิ่ม Feature ใหม่ ๆ ได้โดยไม่กระทบกับระบบเดิม
  • Comprehensive Information Modeling สามารถระบุข้อมูลที่ซับซ้อนได้

โดย UMATI ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน Machine Tool และอุตสาหกรรม Machine Tools ซึ่งมีพื้นฐานมาจากระบบมาตรฐานเปิด โดยมีจุดเด่นสำคัญ 2 ประการ ได้แก่

  • ทำให้การใช้ประโยชน์จากเชื่อมต่อของ Machine Tool เป็นเรื่องง่าย สามารถเข้ากันได้กับความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐาน IT และสภาพแวดล้อมของลูกค้า
  • ลดต้นทุนด้วยความสามารถในการทำความเข้าใจโครงการของลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะตัวได้อย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่านี่ยังไม่ใช่ความสามารถทั้งหมดของ UMATI เนื่องจากในตอนนี้ยังเป็นโครงการที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุมการใช้งานในประเด็นดังนี้

  • สามารถระบุตัวตนของเครื่องจักรได้
  • แสดงสถานะการทำงานของ Machine Tool
  • แสดงรายละเอียดข้อมูลของลำดับคำสั่งการผลิต
  • แสดงข้อมูลวัตถุดิบ เช่น พลังงานที่ใช้ วัสดุ
  • แสดงข้อมูลของอุปกรณ์และชิ้นง่าน
  • เป็นระบบที่สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้
  • สามารถคาดการณ์การตอบสนองของผู้ใช้ได้

UMATI แพลตฟอร์มสำหรับใคร?

การเกิดขึ้นของ UMATI นั้นทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและจับต้องเทคโนโลยี 4.0 สำหรับ Machine Tool ได้ผ่านมาตรฐานกลาง ซึ่งแต่เดิมผู้ผลิตต่างแยกย้ายแข่งขันกันพัฒนา ทำให้เมื่อมีการเปลี่ยนเครื่องจักร หรือเกิดการ ‘ย้ายค่าย-ทีมเดิม’ ทำให้เกิดปัญหาในการทำงานที่ไม่ต่อเนื่อง ต้องมาฝึกอบรมการใช้งานมาตรฐานใหม่ตั้งแต่พื้นฐานระบบ แทนที่จะสามารถต่อยอดจากของเดิม

การเกิดขึ้นของภาษากลางสำหรับ Machine Tool จึงเหมาะสำหรับทุกอุตสาหกรรมที่ต้องใช้งานเครื่องจักรในกลุ่มนี้ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งอยู่ในภาวะการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าและต้องการการผลิตที่ละเอียดรอบคอบ มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น หรืออุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานที่ต้องการความแม่นยำและประสิทธิภาพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น

ในระยะยาวการเกิดขึ้นของ UMATI ในฐานะมาตรฐานจะมีส่วนทำให้รากฐานการศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ เป็นปึกแผ่นมากยิ่งขึ้น ไม่ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากผู้ผลิตเฉพาะรายซึ่งสร้างความแตกต่างของทักษะแรงงานในตลาด และอาจส่งผลให้เกิดการผูกขาดตลาดผ่านทางทักษะแรงงานอีกด้วย เมื่อการศึกษาการวางรากฐานมีพื้นที่ส่วนกลาง การเรียนรู้และต่อยอดจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สามารถทดลองใช้งานได้ที่ https​://umati.app

ดังนั้น UMATI จะกลายเป็นรากฐานสำคัญ เป็นเสาหลักใหม่ที่หยั่งรากลึกสำหรับ Machine Tool ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 หรือยุคการเชื่อมต่อไร้พรหมแดนของ IIoT ที่จะทำให้ผู้ผลิตสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องกังวลกับทักษะในการใช้งานเครื่องมืออีกต่อไป

อ้างอิง:
Vdw.de/en/technology-and-standardisation/umati-universal-machine-tool-interface/
Opcfoundation.org/markets-collaboration/umati/
Opcfoundation.org/about/opc-technologies/opc-ua/