ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI สำหรับการลงทุนประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดมูลค่า 700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งมาร่วมลงทุนกับแดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป ประเทศไทย เพื่อพัฒนาโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงแห่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน ตั้งอยู่ ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ชลบุรี 2

แบตเตอรี่แรงดันสูงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ประเภทไฮบริดหรือรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ทั้งยังเป็นชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนและต้องใช้ทักษะเฉพาะด้านในการผลิต นับตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2561 บุคลากรจากแดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป ได้เข้าร่วมโปรแกรมอบรมและพัฒนาบุคลากรเพื่อการประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง ณ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปในเมืองดิงกอลฟิง และโรงงานนำร่องการผลิตระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีความพร้อมแล้วสำหรับการประกอบแบตเตอรี่ที่ต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย เพื่อการประกอบแบตเตอรี่อันเป็นเทคโนโลยีล่าสุด (เจนเนอเรชั่นที่ 4) เช่น การเชื่อมด้วยเลเซอร์ การเตรียมพื้นผิววัสดุด้วยพลาสมา วิทยาการหุ่นยนต์ กระบวนการยึดติด การตรวจสอบคุณภาพชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติ (AOI) การตรวจสอบการทำงานของระบบไฟฟ้า และการตรวจสอบคุณภาพเมื่อสิ้นสุดสายการผลิต นอกจากนี้ โปรแกรมการอบรมดังกล่าวยังครอบคลุมทักษะในการทำงานกับกระบวนการผลิตอัตโนมัติ ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญในการประกอบโมดูลแบตเตอรี่ รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพโดยรวม การออกแบบกระบวนการและเทคโนโลยีการผลิต การปรับปรุงแก้ไขคุณภาพ และการวิเคราะห์กระบวนการผลิต

เมื่อเสร็จสิ้นการเรียนรู้และเสริมสร้างความเชี่ยวชาญด้านการประกอบแบตเตอรี่แล้ว บุคลากรที่ผ่านการอบรมข้างต้นจะได้ทำงานกับชิ้นส่วนอย่างเซลล์แบตเตอรี่ที่นำเข้าจากผู้ผลิตในภูมิภาคเอเชีย พร้อมด้วยชิ้นส่วนแบตเตอรี่นำเข้าอีกมากมาย ทั้ง โครงอะลูมิเนียม ระบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์และสายไฟ เพื่อประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ได้มาตรฐานระดับโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในประเทศของประเทศไทย เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการประกอบแล้ว แบตเตอรี่แรงดันสูงดังกล่าวจะถูกส่งไปยังโรงงานบีเอ็มดับเบิลยูที่ระยอง เพื่อนำไปติดตั้งในรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 ซึ่งได้เริ่มต้นเฟสแรกไปแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

จุดเด่นของสายการผลิตในโรงงานแห่งนี้นั้นให้ความสำคัญกับทักษะของแรงงานผู้ทำการผลิต โดยระบบอัตโนมัติจะทำหน้าที่ในส่วนที่ความละเอียดของมนุษย์ไม่สามารถจัดการได้ เช่น การเชื่อมหรือการตรวจสอบรอยเชื่อม ซึ่งทำให้เห็นว่าโอกาสและพื้นที่ของแรงงานในยุคการผลิตสมัยใหม่นั้นยังมีความสำคัญอยู่ และระบบอัตโนมัตินั้นไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นในทุกกรณี การพัฒนาศักยภาพแรงงานที่เหมาะสมต่อรูปแบบผลิตภัณฑ์เป้าหมายต่างหากที่ทำให้สามารถผลิตชิ้นส่วนหรือผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานสูงได้ นอกจากนี้โรงงานยังมีพื้นที่การผลิตขนาดกะทัดรัดเหมาะสมต่อการควบคุมพื้นที่ปิดซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ได้ประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดมาแล้ว 4 รุ่นด้วยกันคือ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530บีเอ็มดับเบิลยู XxDrive40และบีเอ็มดับเบิลยู 740Le